สรุปภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนมิถุนายน 2568 โดย กกร.
• เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง และมีความไม่แน่นอนสูงขึ้น หลังมาตรการภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาทางกฎหมาย นอกจากนี้ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เพิ่มภาษี sectoral tariff เหล็กและอะลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป มีส่วนช่วยลดความตึงเครียดของสงครามการค้าในระดับหนึ่ง
• แรงส่งของเศรษฐกิจไทยแผ่วลง ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ขยายตัวที่ 3.1%YOY แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยชั่วคราวตามการลงทุนภาครัฐซึ่งเทียบกับฐานต่ำในปีก่อน หากไม่นับปัจจัยดังกล่าวเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ประมาณ 2.1%YOY เท่านั้น โดยการบริโภคภาคเอกชนชะลอลง ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนหดตัวต่อเนื่อง และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง ด้านการส่งออกสินค้าแม้จะขยายตัวสูงกว่า 15%YOY ตามการเร่งส่งออก แต่กลับไม่ได้ส่งผลบวกต่อภาคการผลิตซึ่งขยายตัวเพียง 0.6%YOY โดยส่วนใหญ่เป็นการส่งออกโดยใช้สินค้าคงคลังและผู้ประกอบการไม่ได้ผลิตเพื่อทดแทนสินค้าคงคลังที่ลดลง
• เศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ โดยคาดว่าจะเติบโตได้ที่ 1.5-2.0% ในระยะต่อไป คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลง คาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 เศรษฐกิจจะขยายตัวใกล้เคียง 3.0%YOY ส่วนครึ่งหลังมีความเสี่ยงที่จะโตไม่ถึง 1%YOY โดยขึ้นอยู่กับผลการเจรจาภาษีระหว่างสหรัฐฯ และไทย เทียบกับประเทศคู่แข่ง ตลอดจนแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อธุรกิจและการจ้าง สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทนั้น คาดว่าจะมีส่วนช่วยพยุงเศรษฐกิจและหนุนการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ มาตรการควรมีความยืดหยุ่นและสอดรับกับสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการส่งออก ตลอดจนป้องกันการไหลบ่าของสินค้านำเข้าผ่านการควบคุมมาตรฐานและตรวจสอบสินค้าผ่านด่านอย่างเข้มงวด รวมทั้งป้องกันการสวมสิทธิ์เพื่อส่งออก
• โดยกรอบประมาณการเศรษฐกิจปี 2568 ของ กกร. (ณ มิ.ย. 68)
GDP 1.5 ถึง 2.0
ส่งออก -0.5 ถึง 0.3
เงินเฟ้อ 0.5 ถึง 1.0